วันจันทร์ที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2554
วันอังคารที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2554
เซลล์ฟู้ด Cellfood : "น้ำแห่งชีวิต"
ในช่วงสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง ดร.เอฟเวอร์เร็ต แอล. สตอรีย์ (Dr. Everett Lafayette Storey) หนึ่งในผู้นำกลุ่มนักวิทยาศาสตร์ชาวอเมริกัน ซึ่งได้รับมอบภารกิจลับสุดยอดในโครงการแมนแฮตตัน (Manhattan Project) เพื่อการประดิษฐ์คิดค้นระเบิดไฮโดรเจน ท่านได้ตระหนักถึงผลกระทบของกัมมันตภาพรังสี ซึ่งเกิดขึ้นระหว่างการทดลองปฏิกิริยานิวเคลียร์ ว่ามีผลร้ายต่อสุขภาพและชีวิตของเพื่อนร่วมโครงการ รวมถึงตัวท่านเองซึ่งเจ็บป่วยจนน้ำหนักตัวลดลงไปถึงกว่า 30 กิโลกรัม ท่านได้เห็นผลการทำลายล้างของระเบิดนิวเคลียร์ที่เมืองฮิโรชิมาและนางาซากิในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งได้จบชีวิตของประชาชนไปเป็นจำนวนมหาศาล รวมถึงผลที่ตามมาของกัมมันตภาพรังสีที่ทิ้งร่องรอยความเสียหายต่อมวลมนุษยชาติในยุคนั้น
ดร.เอฟเวอร์เร็ต แอล. สตอรีย์ ผู้ซึ่งแม้แต่ ดร.อัลเบิร์ต ไอนสไตน์ ยังกล่าวยกย่องว่าเป็น “อัจฉริยะในกลุ่มอัจฉริยะ” ท่านทุ่มเทความรู้ ประสบการณ์ซึ่งท่านได้ใช้ในระหว่างการประดิษฐ์ระเบิดไฮโดรเจนมาเพื่อคิดค้น สิ่งที่จะสามารถช่วยให้ร่างกายของมนุษย์มีสุขภาพดีขึ้นและเพื่อประโยชน์ต่อมวลมนุษยชาติสืบต่อไป โดยอาศัยเทคโนโลยีการแยกโมเลกุลน้ำ (Water Splitting Technology) ซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการจุดชนวนระเบิดไฮโดรเจนด้วยสารดิวทีเรียม ในปี ค.ศ.1956 ความพยายามของท่านก็สัมฤทธิ์ผล ท่านสามารถคิดค้นผลิตภัณฑ์ซึ่งใช้สารดิวทีเรียมซัลเฟต (Deuterium Sulfate) เป็นส่วนประกอบในสารละลายได-เบส ได-โพล (Di-Base Di-Pole) ประกอบด้วยส่วนผสมที่เป็นสูตรเฉพาะตัว (Proprietary Formula) ซึ่งมีแร่ธาตุ 78 ชนิด เอ็นไซม์ 34 ชนิดและกรดอะมิโน 17 ชนิด ผลิตภัณฑ์นี้มี คุณสมบัติพิเศษในการช่วยให้เกิดการซ่อมแซมของเนื้อเยื่ออย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยเพิ่มออกซิเจนในระดับเซลล์ กำจัดสารพิษออกจากร่างกาย และสร้างความสมดุลของระบบต่างๆในร่างกาย
ท่านได้ตั้งชื่อผลิตภัณฑ์นี้ว่า “เซลล์ฟู้ด” (CELLFOOD®) หรือ “น้ำแห่งชีวิต” (Liquid of Life)
หมายเหตุ ดร.เอฟเวอร์เร็ต แอล. สตอรีย์ ต่อมาได้จดลิขสิทธิ์ผลิตภัณฑ์ CELLFOOD®ผ่านองค์การอาหารและยาประเทศสหรัฐอเมริกา ภายใต้ชื่อ “ดิวโทรซัลฟาไซม์” (DEUTROSULFAZYME) ในปี ค.ศ.1978 แต่ผลิตภัณฑ์นี้อยู่ภายใต้การควบคุมอย่างเข้มงวดของกองทัพสหรัฐฯ เนื่องจากมีส่วนประกอบที่สำคัญคือสารดิวทีเรียมซัลเฟต ซึ่งถือว่าเป็นสารยุทธปัจจัย จนกระทั่งปี ค.ศ. 1985 สภาสูงคองเกรสของสหรัฐฯ ได้มีบทบัญญัติ ดิวทีเรียมเพื่อเสรีภาพและสันติภาพ (Deuterium Freedom Act of 1985)ผลิตภัณฑ์นี้จึงมีโอกาสเผยแพร่สู่สาธารณชนได้
เซลล์ฟู้ด มัลติไวตามิน สเปรย์
ผลิตภัณฑ์เสริมไวตามินที่ใช้เลเซอร์เทคโนโลยีปรับรูปร่างโมเลกุลไวตามินให้สามารถซึมผ่านเซลล์ได้โดยตรง ใช้ง่ายเพียงสเปรย์พ่นใต้ลิ้น ประกอบด้วย ไวตามินที่สำคัญ 12 ชนิดที่ร่างกายจำเป็นต้องได้รับในแต่ละวัน ในปริมาณและสัดส่วนที่เหมาะสม (หากขาดหรือได้รับน้อยเกินไป จะทำให้ระบบต่างๆของร่างกายผิดปกติ หรือเกิดโรคต่างๆได้)
เซลล์ฟู้ด มัลติไวตามินสเปรย์ เหนือกว่าผลิตภัณฑ์เสริมไวตามินชนิดอื่นทั้งหมด เนื่องจากร่างกายสามารถดูดซึมสารอาหารไวตามินจาก เซลล์ฟู้ด มัลติไวตามินสเปรย์ เข้าสู่เซลล์ได้โดยตรง โดยมีอัตราการดูดซึมสูงถึงกว่า 90% ทำให้ร่างกายสามารถใช้ประโยชน์จากสารอาหารที่มีอยู่ได้เต็มที่ในทันที ลดการสูญเปล่าจากการรับประทานผลิตภัณฑ์เสริมไวตามินโดยทั่วไป ซึ่งมักพบปัญหาร่างกายสามารถดูดซึมนำไปใช้ประโยชน์ได้น้อย อาทิ ไวตามินเสริมแบบเม็ดและแบบเจลแค็ปซูล ร่างกายดูดซึมได้เพียง 20% เท่านั้น
คุณสมบัติเด่น ด้านอัตราการดูดซึมของ มัลติไวตามิน สเปรย์ นั้นเกิดจาก เทคโนโลยีล้ำยุค ที่มีชื่อว่า Photo Acoustic Resonance/ โฟโต้ อะคุสติก รีโซเนนซ์ ซึ่งเป็น เลเซอร์เทคโนโลยีขั้นสูงที่ได้รับการจดสิทธิบัตรคุ้มครองเป็นเอกสิทธิเฉพาะสำหรับ นูไซน์ คอร์ปอเรชั่น สหรัฐอเมริกา ผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ เท่านั้น ด้วยเทคโนโลยีนี้ รูปร่างของไวตามินแต่ละโมเลกุลจะถูกปรับให้สามารถจับกับตัวรับของแต่ละเซลล์ได้อย่างพอดี โดยไม่ทำลายคุณประโยชน์ตามธรรมชาติ ผลลัพธ์ที่ได้ก็คือ การที่เซลล์แต่ละเซลล์ได้รับและใช้ประโยชน์จากสารอาหารไวตามินอย่างเต็มที่
ส่วนประกอบ ไวตามินใน เซลล์ฟู้ด มัลติไวตามินสเปรย์ สกัดจากส่วนผสมคุณภาพสูงตามธรรมชาติ ไม่มี สารเพิ่มเนื้อ สารยึดจับ สารเคลือบหล่อลื่น หรือสารปรุงแต่งใดๆ ที่มักมีอยู่ในผลิตภัณฑ์เสริมไวตามินอื่นๆ จึงไม่ก่อให้เกิดอาหารแพ้
เซลล์ฟู้ด มัลติไวตามินสเปรย์ ไม่มีสารต้องห้ามตามประกาศของสมาคมกีฬาต่างๆ
เซลล์ฟู้ด มัลติไวตามินสเปรย์ ไม่ก่อให้เกิดอาการเสพย์ติด ไม่มีสารพิษตกค้างในร่างกาย แม้รับประทานเป็นประจำ
o ดูดซึมเข้าสู่เซลล์ได้โดยตรง มีอัตราการดูดซึมสูงถึงกว่า 90% ทำให้ร่างกายสามารถใช้ประโยชน์จากสารอาหารที่มีอยู่ได้เต็มที่ในทันที ลดการสูญเปล่าจากการรับประทานผลิตภัณฑ์เสริมไวตามินโดยทั่วไป ซึ่งมักพบปัญหาร่างกายสามารถดูดซึมนำไปใช้ประโยชน์ได้น้อย อาทิ ไวตามินเสริมแบบเม็ดและแบบแค็ปซูล ร่างกายดูดซึมได้เพียง 20% เท่านั้น
o ไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ ไม่มี สารเพิ่มเนื้อ สารยึดจับ สารเคลือบหล่อลื่น หรือสารปรุงแต่งใดๆ o ใช้ง่าย เหมาะสำหรับผู้ไม่ชอบยาเม็ด หรือมีปัญหาในการกลืน
o ให้ไวตามินที่จำเป็นแก่ร่างกายครบถ้วนทั้งประเภทและปริมาณ
คุณประโยชน์ของเซลล์ฟู้ด มัลติไวตามินสเปรย์
ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้แก่ร่างกายในระดับเซลล์
ช่วยให้ร่างกายทำหน้าที่อย่างเป็นปกติ
ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิด/บรรเทาอาการของโรคต่างๆ
เซลล์ฟู้ด ดีเอ็นเอ อาร์เอ็นเอ หรือ เอทีเอ็ม นูโค้ด
เซลล์ฟู้ด ดีเอ็นเอ อาร์เอ็นเอ หรือ เอทีเอ็ม นูโค้ด คืออะไร ?
o เซลล์ฟู้ด ดีเอ็นเอ – อาร์เอ็นเอ เอ คือ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อการฟื้นสภาพเซลล์ ต้านความชรา(anti-aging) และความเสื่อม o เซลล์ฟู้ด ดีเอ็นเอ – อาร์เอ็นเอ ประกอบด้วย
1) นิวคลีอิค แอซิค (Nucleic Acid : มีส่วนสำคัญในการสร้าง ดีเอ็นเอ และ อาร์เอ็นเอ)
2) อะดีโนซีนไตรฟอสเฟต ( Adenosine Triphosphate – ATP : เอทีพี โมเลกุลพลังงานหลัก)
3) เมทิลกรุ๊ป (Methyl Groups : ตัวกำหนดกระบวนการแก่) แก่ร่างกาย ซึ่งส่วนประกอบทั้งหมดผ่านการใช้เลเซอร์เทคโนโลยีซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่เป็นสิทธิบัตรเฉพาะของนูไซน์ คอร์ปอเรชั่น สหรัฐอเมริกา เพื่อปรับรูปร่างโมเลกุลให้สามารถซึมเข้าสู่เซลล์ได้โดยตรง ร่างกายจึงสามารถใช้ประโยชน์ได้ทันที
คุณประโยชน์ของเซลล์ฟู้ด ดีเอ็นเอ – อาร์เอ็นเอได้แก่อะไรบ้าง
คุณประโยชน์หลังการใช้ต่อเนื่อง (ไม่ต่ำกว่า 90 วัน)
1. ลดความเสี่ยงในการเสียชีวิตจากโรคหลักๆลงได้ถึง 90%
2. ต้านความชราและความเสื่อม หมุนย้อนเวลาคืนความอ่อนเยาว์ให้แก่ทุกเซลล์ของร่างกาย
3. เพิ่มโอกาสการมีอายุยืนอย่างมีคุณภาพขึ้นอีก 20-30 ปี
4. เพิ่มพลังงาน จากการใช้กลูโคสให้แก่เซลล์ได้ถึง 18 เท่า
ที่ว่า เซลล์ฟู้ด ดีเอ็นเอ – อาร์เอ็นเอ สามารถลดความเสี่ยงในการเสียชีวิต จากโรคหลักๆ ลงได้ถึง 90% นั้น ทำได้อย่างไร
o การรับ เซลล์ฟู้ด ดีเอ็นเอ – อาร์เอ็นเอ อย่างสม่ำเสมอในระยะเวลาไม่ต่ำกว่า 90 วัน จะช่วยลดระดับ
โฮโมซิสเทอีน (Homocysteine)
ซึ่งเป็นตัวการทำให้เกิดโรคหลอดเลือดหัวใจและสมอง รวมทั้งโรคที่สำคัญต่างๆ มากมาย
o โฮโมซีสเทอีน คืออะไร โฮโมซิสเทอีน คือ
ผลพลอยได้จากการที่ร่างกายมีการเผาผลาญกรดอะมิโน (หน่วยย่อยที่สุดของโปรตีน)โฮโมซิสเทอีน เป็นอันตรายต่อร่างกาย ซึ่งสะสมอยู่ในกระแสเลือด และอาจไปขวางกั้นทำให้เกิดการอุดตันของหลอดเลือดหัวใจและสมอง
o โรคต่างๆที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการที่ร่างกายมีปริมาณ โฮโมซิสเทอีน มากเกินไป ได้แก่อะไรบ้าง หลอดเลือดหัวใจและสมอง อัลไซเมอร์ ข้อเสื่อม มะเร็ง อ่อนเพลียเรื้อรัง หดหู่ เบาหวาน ปวดศีรษะ หัวใจวาย เป็นหมัน โรคอ้วน ครรภ์มีปัญหา ไทรอยด์ แผลเปื่อย เป็นต้น
o ระดับ โฮโมซีสเทอีน
ในเลือดปริมาณเท่าใดจึงจะอยู่ในระดับเสี่ยงต่อการเสียชีวิตด้วยโรคที่เกิดจาก โฮโมซิสเทอีน (หน่วยนับเป็น ไมโครโมลส์ต่อเลือด 1 ลิตร micromoles/litre)
ต่ำกว่า 6.3 = โอกาสเสี่ยงน้อยมาก
6.4 - 9.0 = โอกาสเสี่ยงน้อย
9.1 - 15.0 = โอกาสเสี่ยงสูง
+ 15.0 = โอกาสเสี่ยงสูงมาก
o ทุกๆ 5 ไมโครโมลส์ต่อเลือด 1 ลิตร ที่ระดับ โฮโมซีสเทอีน ในร่างกายลดระดับลง หมายถึงการที่เราสามารถลดความเสี่ยงในการเสียชีวิตจากโรคหลอดเลือดหัวใจได้ 50% และลดความเสี่ยงในการเสียชีวิตจากมะเร็งได้ 26%
ที่ว่า เซลล์ฟู้ด ดีเอ็นเอ – อาร์เอ็นเอ ต้านความชรา และความเสื่อม หมุนย้อนเวลาคืนความอ่อนเยาว์ให้แก่ทุกเซลล์ของร่างกาย และเพิ่มโอกาสการมีอายุยืนอย่างมีคุณภาพขึ้นได้ 20-30 ปี นั้น หมายความว่าอย่างไร
o เซลล์ฟู้ด ดีเอ็นเอ – อาร์เอ็นเอ ช่วยเพิ่ม กรดนิวคลีอิค (=เพิ่มดีเอ็นเอ อาร์เอ็นเอ ซึ่งจะส่งผลให้การแบ่งตัวของเซลล์เพิ่มมากขึ้น และเป็นปกติ) และช่วยให้ชะลอกระบวนการการสูญเสีย เมทิลกรุ๊ป ในดีเอ็นเอ
o การแก่ทางชีวภาพ (biological aging)
นั้นได้ถูกกำหนดและวางโปรแกรมไว้แล้วโดยการค่อยๆสูญเสีย องค์ประกอบที่สำคัญของ ดีเอ็นเอ ที่เรียกว่า เมทิลกรุ๊ป (METHYL GROUPS) ไปเรื่อยๆ ซึ่งหากการสูญเสียมีถึง 40% จะทำให้เสียชีวิตลงจากความเสื่อมของร่างกาย
เมทิลกรุ๊ปแรกเกิด อายุ 25 ปี อายุ 50 ปี อายุ 75 ปี 40%
อัตราการสูญสียเมทิลกรุ๊ป 10% 20% 30% เสียชีวิต
o การสูญเสียเมทิลกรุ๊ปเกิดจาก สภาวะการมีอนุมูลอิสระมากเกินไป การรับประทานอาหารไม่ถูกหลักโภชนาการ การขาดการออกกำลังกาย การเป็นโรค ความเป็นพิษของสภาวะแวดล้อม บุหรี่ และการที่ร่างกชะลอการสร้างดีเอ็นเอ – อาร์เอ็นเอ
o เซลล์ฟู้ด ดีเอ็นเอ – อาร์เอ็นเอ
ช่วยปรับปรุงกระบวนการเมทิเลชั่นของดีเอ็นเอ ซึ่งส่งผลให้ชะลอหรือหยุดการลดจำนวนลงของเมทิลกรุ๊ป รวมทั้งยังช่วยเพิ่มกรดนิวคลีอิค (ซึ่งมีค่าเท่ากับการเพิ่ม ดีเอ็นเอ อาร์เอ็นเอ)ซึ่งจากการศึกษาเกี่ยวกับการมีอายุยืนพบว่าเป็นวิธีเดียวที่จะช่วยเพิ่มโอกาสการมีอายุยืนขึ้นได้
ที่ว่า เซลล์ฟู้ด ดีเอ็นเอ – อาร์เอ็นเอ เพิ่มพลังงานให้แก่เซลล์ จากการใช้กลูโคส ได้ถึง 18 เท่า นั้น หมายความว่าอย่างไร
o คุณสมบัติการเพิ่มพลังงานให้แก่เซลล์ เกิดจากการที่ ดีเอ็นเอ – อาร์เอ็นเอ ให้ อะดรีโนซีน ไตรฟอสเฟส หรือ เอทีพี
ซึ่งถือว่าเป็นโมเลกุลพลังงานหลัก เสมือนเป็นเชื้อเพลิงที่ขับเคลื่อนการทำงานของเซลล์ ร่างกายเราได้พลังงานจากการแตกตัวของโมเลกุลของกลูโคส แต่หากปราศจากออกซิเจนการแตกตัวนั้นจะให้พลังงานเอทีพีเพียงแค่ 2 โมเลกุล แต่เมื่อได้มีการรวมตัวกับออกซิเจนจากเซลล์ฟู้ด โมเลกุลของกลูโคสแต่ละตัว จะแตกตัวออกเป็นเอทีพีได้สูงถึง 36โมเลกุลส่งผลให้เกิดการเพิ่มขึ้นของพลังงานในระดับเซลล์อย่างมากมาย
o ร่างกายต้องการ เอทีพี เพื่อ :
1. สมรรถนะของการใช้กล้ามเนื้อและการฟื้นคืนสภาพอย่างรวดเร็ว
2. การเสริมความแข็งแรงเกี่ยวกับหัวใจ
3. ระบบประสาท อาทิ การเรียนรู้ ความจำ การทำหน้าที่ของปอด การเสริมภูมิต้านทานในระดับเซลล์
4. การเสริมสมรรถภาพทางเพศ (โดยเฉพาะสำหรับชายที่เป็นเบาหวาน)
เซลล์ฟู้ด ดีเอ็นเอ – อาร์เอ็นเอ แตกต่างจากผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อการฟื้นสภาพเซลล์อื่นๆอย่างไร
o เซลล์ฟู้ด ดีเอ็นเอ – อาร์เอ็นเอ
เป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อฟื้นสภาพเซลล์เพียงหนึ่งเดียวที่รวมคุณประโยชน์ของ นิวคลีอิค แอซิค เบส (Nucleic Acid : มีส่วนสำคัญในการสร้าง ดีเอ็นเอ และ อาร์เอ็นเอ)อะดีโนซีนไตรฟอสเฟต ( Adenosine Triphosphate – ATP : เอทีพี โมเลกุลพลังงานหลัก)เมทิลกรุ๊ป (Methyl Groups)และเซลล์ฟู้ดเข้าด้วยกัน
o สามารถดูดซึมเข้าสู่เซลล์และใช้ประโยชน์ได้ในทันที
จากเทคโนโลยีล้ำยุค ที่มีชื่อว่า Photo Acoustic Resonance/ โฟโต้ อะคุสติก รีโซเนนซ์ โซเนนซ์ ซึ่งเป็น เลเซอร์เทคโนโลยีขั้นสูงที่ได้รับการจดสิทธิบัตรคุ้มครองให้เป็นเอกสิทธิเฉพาะสำหรับนูไซน์ คอร์ปอเรชั่น สหรัฐอเมริกา ผู้ผลิต เท่านั้น เทคโนโลยีนี้จะทำการปรับเปลี่ยนรูปร่างโมเลกุลของสารอาหารแต่ละโมเลกุล ทำให้ร่างกายสามารถดูดซึมเซลล์ฟู้ด ดีเอ็นเอ อาร์เอ็นเอ เข้าสู่เซลล์เพื่อใช้ประโยชน์ได้เต็มที่ในทันที
รวมคุณประโยชน์สำคัญ 4 ประการเข้าด้วยกัน ในผลิตภัณฑ์หนึ่งเดียว
o ลดความเสี่ยงในการเสียชีวิตจากโรคหลักๆ ลงได้ถึง 90%
o ต้านความชราและความเสื่อม หมุนย้อนเวลาคืนความอ่อนเยาว์ให้แก่ทุกเซลล์ของร่างกาย
o เพิ่มโอกาสการมีอายุยืนอย่างมีคุณภาพขึ้นอีก 20-30 ปี
o เพิ่มพลังงาน จากการใช้กลูโคสให้แก่เซลล์ได้ถึง 18 เท่า
o ลดความเสี่ยงในการเสียชีวิตจากโรคหลักๆ ลงได้ถึง 90%
o ต้านความชราและความเสื่อม หมุนย้อนเวลาคืนความอ่อนเยาว์ให้แก่ทุกเซลล์ของร่างกาย
o เพิ่มโอกาสการมีอายุยืนอย่างมีคุณภาพขึ้นอีก 20-30 ปี
o เพิ่มพลังงาน จากการใช้กลูโคสให้แก่เซลล์ได้ถึง 18 เท่า
เซลล์ฟู้ด ดีเอ็นเอ – อาร์เอ็นเอ เหมาะกับใคร
1. ผู้ที่ให้ความสำคัญต่อสุขภาพ และการมีชีวิตยืนยาวอย่างมีคุณภาพ
2. ผู้ที่ให้ความสำคัญต่อการคงความเป็นหนุ่มสาว
3. ผู้ป่วยที่ต้องการฟื้นฟูสุขภาพให้แข็งแรงในระดับเซลล์เพื่อให้การรักษาทางการแพทย์ได้ผลดียิ่งขึ้น
4. ผู้ที่ต้องการลดความเสี่ยงจากการเป็นโรคที่เกี่ยวข้องกับ โฮโมซิสเทอีน
5. ผู้ที่ต้องการสร้างเสริมพลังงาน และความแข็งแรงในระดับเซลล์
6. ผู้ที่ใช้ผลิตภัณฑ์ เซลล์ฟู้ด คอยลอยดัล มิเนอรัลเบรนด์ เป็นประจำและต้องการฟื้นสภาพเซลล์กำจัดพิษจาก โฮโมซิสเทอีน ต้องการหมุนย้อนเวลา ให้มีชีวิตยืนยาว และต้องการคุณประโยชน์จากการเพิ่มพลังเอทีพี
1. ผู้ที่ให้ความสำคัญต่อสุขภาพ และการมีชีวิตยืนยาวอย่างมีคุณภาพ
2. ผู้ที่ให้ความสำคัญต่อการคงความเป็นหนุ่มสาว
3. ผู้ป่วยที่ต้องการฟื้นฟูสุขภาพให้แข็งแรงในระดับเซลล์เพื่อให้การรักษาทางการแพทย์ได้ผลดียิ่งขึ้น
4. ผู้ที่ต้องการลดความเสี่ยงจากการเป็นโรคที่เกี่ยวข้องกับ โฮโมซิสเทอีน
5. ผู้ที่ต้องการสร้างเสริมพลังงาน และความแข็งแรงในระดับเซลล์
6. ผู้ที่ใช้ผลิตภัณฑ์ เซลล์ฟู้ด คอยลอยดัล มิเนอรัลเบรนด์ เป็นประจำและต้องการฟื้นสภาพเซลล์กำจัดพิษจาก โฮโมซิสเทอีน ต้องการหมุนย้อนเวลา ให้มีชีวิตยืนยาว และต้องการคุณประโยชน์จากการเพิ่มพลังเอทีพี
o เซลล์ฟู้ด ดีเอ็นเอ – อาร์เอ็นเอ ไม่เหมาะกับใคร
สำหรับผู้ที่มีสภาวะกรดยูริคสูง หรือเป็นโรคเก๊าท์ ไม่ควรได้รับการเสริมกรดนิวคลีอิค อย่างไรก็ตามปริมาณพิวรีนเบสที่มีอยู่ในเซลล์ฟู้ดดีเอ็นเอ อาร์เอ็นเอ นั้น มีต่ำกว่าปริมาณที่จะไปเพิ่มความเสี่ยงของการมีกรดยูริคสูงขึ้น
สำหรับผู้ที่มีสภาวะกรดยูริคสูง หรือเป็นโรคเก๊าท์ ไม่ควรได้รับการเสริมกรดนิวคลีอิค อย่างไรก็ตามปริมาณพิวรีนเบสที่มีอยู่ในเซลล์ฟู้ดดีเอ็นเอ อาร์เอ็นเอ นั้น มีต่ำกว่าปริมาณที่จะไปเพิ่มความเสี่ยงของการมีกรดยูริคสูงขึ้น
o วิธีการใช้ เซลล์ฟู้ด ดีเอ็นเอ – อาร์เอ็นเอ เขย่าขวดก่อนใช้ แล้ว สเปรย์
o เซลล์ฟู้ด ดีเอ็นเอ – อาร์เอ็นเอ ใต้ลิ้น 3 ครั้ง วันละ 2 เวลา ทุกวัน 1ขวดใช้ได้ 1เดือน
(ดีเอ็นเอ หมายถึง สารพันธุกรรมที่มีหน้าที่เก็บข้อมูลทางพันธุกรรมของเซลล์สิ่งมีชีวิตทุกชนิด) (อาร์เอ็นเอ หมายถึง สารพันธุกรรมที่ทำหน้าที่กำหนดการสร้างโปรตีนในสิ่งมีชีวิต)
เอทีเอ็ม สไปรูไลน่า พลัส : ผลิตจากฟาร์มเอิร์ทไรซ์ “Earthrise Farm”
สไปรูไลน่าหรือสาหร่ายเกลียวทอง รู้จักกันในวงการวิทยาศาสตร์ว่า ไซยาโนแบคทีเรีย เป็นสิ่งมีชีวิตที่อยู่บนโลกมานานกว่า 3.6 พันล้านปี พบได้ตามแหล่งน้ำธรรมชาติ ในอดีต ชาวพื้นเมืองใช้สไปรูไลน่าหรือสาหร่ายเกลียวทองเป็นอาหาร ช่วยให้พวกเขามีชีวิตที่ยืนยาวขึ้น สุขภาพแข็งแรง ระบบหมุนเวียนโลหิตดีขึ้น และช่วยดูแลสุขภาพร่างกาย
สไปรูไลน่า ได้รับการกล่าวขานว่าเป็น “สุดยอดอาหาร” เนื่องจากมีคุณค่าทางโภชนาการสูง ร่างกายสามารถได้รับสารอาหารครบถ้วนจากการบริโภคสาหร่ายสไปรูไลน่า
เอทีเอ็ม สไปรูไลน่า พลัส : ผลิตจากฟาร์มเอิร์ทไรซ์ “Earthrise Farm” ถือเป็นฟาร์มแรกที่ผลิตสไปรูไลน่าตั้งแต่ปี 1982 และเป็นฟาร์มที่ใหญ่ที่สุดของโลกอยู่ทางอเมริกาเหนือ
การผลิตสไปรูไลน่าของฟาร์มเอิร์ทไรซ์ (Earthrise Spirulina production)
1. คัดแยกสายพันธ์ของสไปรูไลน่าจากห้องทดลอง ให้ได้สายพันธุ์บริสุทธิ์เพียงสายพันธุ์เดียว นั่นคือ Spirulina platensis เพื่อนำมาเพาะเลี้ยง
2. การเพาะเลี้ยงสาหร่ายของฟาร์มเป็นแบบธรรมชาติ โดยไม่ใช้ยาฆ่าแมลงหรือสารกำจัดวัชพืช
3. การเพาะเลี้ยงแบบให้ฟองอากาศที่มีก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในน้ำ และเติมแร่ธาตุที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของสาหร่าย โดยไม่ใช้สารเคมีหรือปุ๋ยคอก ทำให้สาหร่ายที่เพาะเลี้ยงมีคุณค่าทางโภชนาการสูง นอกจากนี้ยังมีการตรวจสอบและคัดแยกเชื้อพิษอื่นๆ ที่เป็นอันตรายต่อร่างกายออกจากการเพาะเลี้ยง ด้วยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ที่ทันสมัย ที่เรียกว่า Enzyme linked immunosorbant assay (ELISA) และ Protein phosphatase inhibition assay (PPIA) ทำให้มั่นใจได้ว่าสไปรูไลน่าที่เพาะเลี้ยงมีความบริสุทธิ์ปราศจากเชื้อปนเปื้อน
4. ขั้นตอนการเก็บเกี่ยวผลผลิต ใช้เวลาลำเลียงจากบ่อเลี้ยงถึงสถานที่ทำแห้งที่เป็นอาคารปิดภายในเวลา 15 นาที
5. ทำให้แห้งอย่างรวดเร็ว เพื่อเป็นการรักษาคุณค่าของสารอาหารให้คงอยู่อย่างครบถ้วน คุณประโยชน์ด้านสุขภาพ 5 ประการ ของสไปรูไลน่า
1. เพื่อความแข็งแรงของระบบภูมิต้านทาน
2. เพื่อปรับปรุงระบบย่อยอาหาร
3. เพื่อปรับปรุงระบบหลอดเลือดหัวใจ และลดคลอเรสเตอรอล
4. เพื่อกระตุ้นกลไกการกำจัดของเสียตามธรรมชาติของร่างกายและการล้างพิษ (detoxification)
5. เพื่อลดความเสี่ยงในการเป็นมะเร็ง โดยการต้านอนุมูลอิสระ
2. เพื่อปรับปรุงระบบย่อยอาหาร
3. เพื่อปรับปรุงระบบหลอดเลือดหัวใจ และลดคลอเรสเตอรอล
4. เพื่อกระตุ้นกลไกการกำจัดของเสียตามธรรมชาติของร่างกายและการล้างพิษ (detoxification)
5. เพื่อลดความเสี่ยงในการเป็นมะเร็ง โดยการต้านอนุมูลอิสระ
เอทีเอ็ม สไปรูไลน่า พลัส – บริสุทธิ์ ปราศจากสารปนเปื้อน 100%
ปราศจากสารกันบูด สารปรุงแต่งสี รส และสารที่ช่วยในการยึดเกาะทำให้เกิดความคงตัว
วันจันทร์ที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2554
เอทีเอ็ม ออกซิเจล
สุดยอดความลับแห่งนวัตกรรมความงาม เพื่อสร้างสรรค์สิ่งที่ดีที่สุดสำหรับผู้หญิง
เอทีเอ็ม ออกซิเจล ประกอบด้วย
วิธีใช้
ผิวหนังเป็นอวัยวะที่ใหญ่ที่สุดในร่างกาย สร้างขึ้นจากเซลล์เล็กๆ หลายล้านเซลล์ แม้ว่าผิวหนังจะมีน้ำหล่อเลี้ยง และมีความยืดหยุ่นอยู่แล้ว แต่ก็สามารถถูกทำร้ายได้จากมลภาวะแวดล้อมภายนอกและรังสียูวี ผู้หญิงส่วนใหญ่ต่างต้องการผิวพรรณที่แลดูอ่อนเยาว์ เนียนเรียบกระชับ และเปล่งปลั่งสดใส เซลล์ฟู้ด ออกซิเจล จึงเป็นสุดยอดของผลิตภัณฑ์ปรนนิบัติผิว อุดมไปด้วยส่วนประกอบอันเปี่ยมประสิทธิภาพ ให้คุณสมบัติในการฟื้นสภาพผิวที่สูญเสียความยืดหยุ่น ให้กลับแลดูเนียน กระชับ คงความเยาว์วัย
เอทีเอ็ม ออกซิเจล ประกอบด้วย
เซลล์ฟู้ด | สูตรการเพิ่มออกซิเจนให้กับเซลล์ ที่มีส่วนประกอบของแร่ธาตุ 78 ชนิด เอนไซม์ 34 ชนิด กรดอะมิโน 17 ชนิด และการแยกน้ำด้วยกระแสไฟฟ้า ช่วยบำรุงเซลล์ผิวอย่างล้ำ | |
อะโลเวร่า | พืชพรรณที่มีคุณสมบัติอันน่าอัศจรรย์ที่ได้รับการกล่าวขานไปทั่วว่า ช่วยบำรุงรักษา คงความชุ่มชื้น และเนียนนุ่ม สำหรับผิวสุขภาพดี และผิวเสีย | |
คาโมไมล์ | ส่วนประกอบธรรมชาติที่ได้รับความนิยมนำมาเป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้าของยุโรป ด้วยคุณสมบัติซึมสู่เซลล์ผิว ที่ช่วยบำรุงรักษาและชำระล้างรูขุมขนได้อย่างหมดจด ในขณะเดียวกันยังช่วยให้ผิวชุ่มชื้น และรู้สึกผ่อนคลายอีกด้วย | |
ฟอสซิล ออร์แกนิค | มีองค์ประกอบของส่วนผสมจากธรรมชาติ 100% ประกอบด้วย แร่ธาตุ กรดอะมิโน และกรดฮิวมัส เพื่อช่วยบำรุงรักษาผิวระดับเซลล์ภายใน | |
กลีเซอรีน | ความชุ่มชื่นจากธรรมชาติ กลีเซอรีนช่วยดูดซึมความชุ่มชื้นสู่ผิว เพิ่มความนุ่มละมุนและอ่อนโยน คืนความเปล่งปลั่งสดใสให้กับผิว และช่วยรักษาระดับความชื้นในผิวอีกด้วย |
เอทีเอ็ม ออกซิเจล ช่วยคงความชุ่มชื้น คืนผิวกระชับ และเนียนนุ่มตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้ ด้วยการเพิ่มออกซิเจน และความชุ่มชื้นตลอดกลางวัน และกลางคืน
วิธีใช้
ตอนเช้า : ล้างเจลออก ผิวหน้าของคุณจะรู้สึกสะอาดและสดชื่น แล้วค่อยๆ ทาเจลลงบนใบหน้าอีกครั้ง ส่วนประกอบต่างๆ จะช่วยปกป้องผิวจากสภาพอากาศตลอดวัน ผิวของคุณจะเริ่มกระชับในขณะที่เจลค่อยๆ แห้ง นอกจากนี้ ยังสามารถใช้ทาผิวบริเวณอื่นๆ ที่ต้องการการฟื้นฟูอีกด้วย
ตอนเย็น : ล้างหน้าให้สะอาด ใช้นิ้วมือแต้มเจลเพียงเล็กน้อย และทาให้ทั่วใบหน้าและลำคอ เน้นเฉพาะบริเวณใต้ตา ผิวของคุณจะเริ่มกระชับในขณะที่เจลค่อยๆ แห้ง ส่วนประกอบของ เอทีเอ็ม ออกซิเจล จะช่วยฟื้นฟูความชุ่มชื้นของสภาพผิวตามธรรมชาติอย่างล้ำลึกตลอดคืน
การใช้เป็นประจำ : สำหรับสภาพผิวที่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษ
คุณอาจหยดเซลล์ฟู้ด 1-2 หยด ลงใน เอทีเอ็ม ออกซิเจล แต่ไม่ควรหยด เซลล์ฟู้ด (เอทีเอ็ม คอลลอยด์ดัล มิเนอรัล เบลนด์) ลงในกระปุก เอทีเอ็ม ออกซิเจล โดยตรง ควรหยด 1-2 หยดลงในเนื้อเจลเพียงเล็กน้อย สำหรับการทาผิวหน้าแต่ละครั้ง หรืออาจใส่ในภาชนะสำหรับผสม เจลจะกลายเป็นน้ำมากขึ้น และแทรกซึมเข้าสู่เนื้อเยื่อเซลล์ผิวของคุณ ด้วยประสิทธิภาพในการเพิ่มออกซิเจน และคืนความเปล่งปลั่งสดใสให้กับผิว
วันอาทิตย์ที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2554
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)