วันอังคารที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2554

เซลล์ฟู้ด Cellfood : "น้ำแห่งชีวิต"

ในช่วงสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง ดร.เอฟเวอร์เร็ต แอล. สตอรีย์ (Dr. Everett Lafayette Storey) หนึ่งในผู้นำกลุ่มนักวิทยาศาสตร์ชาวอเมริกัน ซึ่งได้รับมอบภารกิจลับสุดยอดในโครงการแมนแฮตตัน (Manhattan Project) เพื่อการประดิษฐ์คิดค้นระเบิดไฮโดรเจน ท่านได้ตระหนักถึงผลกระทบของกัมมันตภาพรังสี ซึ่งเกิดขึ้นระหว่างการทดลองปฏิกิริยานิวเคลียร์ ว่ามีผลร้ายต่อสุขภาพและชีวิตของเพื่อนร่วมโครงการ รวมถึงตัวท่านเองซึ่งเจ็บป่วยจนน้ำหนักตัวลดลงไปถึงกว่า 30 กิโลกรัม ท่านได้เห็นผลการทำลายล้างของระเบิดนิวเคลียร์ที่เมืองฮิโรชิมาและนางาซากิในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งได้จบชีวิตของประชาชนไปเป็นจำนวนมหาศาล รวมถึงผลที่ตามมาของกัมมันตภาพรังสีที่ทิ้งร่องรอยความเสียหายต่อมวลมนุษยชาติในยุคนั้น

ดร.เอฟเวอร์เร็ต แอล. สตอรีย์ ผู้ซึ่งแม้แต่ ดร.อัลเบิร์ต ไอนสไตน์ ยังกล่าวยกย่องว่าเป็น “อัจฉริยะในกลุ่มอัจฉริยะ” ท่านทุ่มเทความรู้ ประสบการณ์ซึ่งท่านได้ใช้ในระหว่างการประดิษฐ์ระเบิดไฮโดรเจนมาเพื่อคิดค้น สิ่งที่จะสามารถช่วยให้ร่างกายของมนุษย์มีสุขภาพดีขึ้นและเพื่อประโยชน์ต่อมวลมนุษยชาติสืบต่อไป โดยอาศัยเทคโนโลยีการแยกโมเลกุลน้ำ (Water Splitting Technology) ซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการจุดชนวนระเบิดไฮโดรเจนด้วยสารดิวทีเรียม ในปี ค.ศ.1956 ความพยายามของท่านก็สัมฤทธิ์ผล ท่านสามารถคิดค้นผลิตภัณฑ์ซึ่งใช้สารดิวทีเรียมซัลเฟต (Deuterium Sulfate) เป็นส่วนประกอบในสารละลายได-เบส ได-โพล (Di-Base Di-Pole) ประกอบด้วยส่วนผสมที่เป็นสูตรเฉพาะตัว (Proprietary Formula) ซึ่งมีแร่ธาตุ 78 ชนิด เอ็นไซม์ 34 ชนิดและกรดอะมิโน 17 ชนิด ผลิตภัณฑ์นี้มี คุณสมบัติพิเศษในการช่วยให้เกิดการซ่อมแซมของเนื้อเยื่ออย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยเพิ่มออกซิเจนในระดับเซลล์ กำจัดสารพิษออกจากร่างกาย และสร้างความสมดุลของระบบต่างๆในร่างกาย

ท่านได้ตั้งชื่อผลิตภัณฑ์นี้ว่า “เซลล์ฟู้ด” (CELLFOOD®) หรือ “น้ำแห่งชีวิต” (Liquid of Life)

หมายเหตุ ดร.เอฟเวอร์เร็ต แอล. สตอรีย์ ต่อมาได้จดลิขสิทธิ์ผลิตภัณฑ์ CELLFOOD®ผ่านองค์การอาหารและยาประเทศสหรัฐอเมริกา ภายใต้ชื่อ “ดิวโทรซัลฟาไซม์” (DEUTROSULFAZYME) ในปี ค.ศ.1978 แต่ผลิตภัณฑ์นี้อยู่ภายใต้การควบคุมอย่างเข้มงวดของกองทัพสหรัฐฯ เนื่องจากมีส่วนประกอบที่สำคัญคือสารดิวทีเรียมซัลเฟต ซึ่งถือว่าเป็นสารยุทธปัจจัย จนกระทั่งปี ค.ศ. 1985 สภาสูงคองเกรสของสหรัฐฯ ได้มีบทบัญญัติ ดิวทีเรียมเพื่อเสรีภาพและสันติภาพ (Deuterium Freedom Act of 1985)ผลิตภัณฑ์นี้จึงมีโอกาสเผยแพร่สู่สาธารณชนได้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น